การศึกษาการพัฒนาคุณภาพชีวิตกับการเปลี่ยนแปลงทางสังคมของชาวไทยมอแกน
ผู้วิจัย สถาบัน กศน.ภาคใต้
ปีที่วิจัย 2558
การศึกษาการพัฒนาคุณภาพชีวิตกับการเปลี่ยนแปลงทางสังคมของชาวไทยมอแกนมีวัตถุประสงค์ในการศึกษา เพื่อ
1)
ศึกษาบริบทชุมชนและวิถีชีวิตของชาวไทยมอแกน 2) ศึกษาระดับการพัฒนาคุณภาพชีวิตของชาวไทยมอแกน
3) ศึกษาระดับการเปลี่ยนแปลงทางสังคมของชาวไทยมอแกน
4) เปรียบเทียบระดับการเปลี่ยนแปลงทางสังคมของชาวไทยมอแกน และ 5) ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างการพัฒนาคุณภาพชีวิตกับการเปลี่ยนแปลงทางสังคมในปัจจุบันของชาวไทยมอแกน
กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ ตัวแทนครอบครัวของชาวไทยมอแกน จำนวน 59
ครัวเรือน และมีส่วนเกี่ยวข้อง ได้แก่
เจ้าหน้าที่หน่วยงานราชการที่มีหน้าที่ดูแลพื้นที่ที่ชาวมอแกนตั้งถิ่นฐานอยู่
ได้แก่ เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์
เจ้าหน้าที่สาธารณสุขที่รับผิดชอบในหมู่บ้าน
ผู้บริหารศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอคุระบุรี และบุคลากรศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอคุระบุรี
เครื่องมือที่ใช้ ได้แก่ แบบสอบถามและแบบสัมภาษณ์ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล
ประกอบด้วย ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการสรุปความ
ผลการศึกษาพบว่า
1. บริบทของชาวไทยมอแกน
ปัจจุบันตั้งอยู่บริเวณอ่าวบอนใหญ่ หมู่เกาะสุรินทร์ จังหวัดพังงา
ลักษณะบ้านเป็นใต้ถุนสูง เสาใช้ไม้โพธิ์ทะเล (โพธิ์เล) และไม่ได้เคลื่อนย้ายไปไหน
อยู่เป็นชุมชน มีระบบสาธารณูปโภค น้ำ ไฟฟ้า/แสงสว่าง
ซึ่งได้รับการช่วยเหลือจากทางราชการ การคมนาคม ใช้เรือยนต์เป็นพาหนะหรือที่เรียกว่าเรือหัวโทง
2.
วิถีชีวิตของชาวไทยมอแกน ด้านสุขภาพอนามัย พบว่า ชาวไทยมอแกนส่วนใหญ่มีอายุขัยไม่ยืนยาวนัก
เนื่องจากการดำน้ำลึก การติดสารเสพติด เช่น ยาเส้น เหล้าขาว หรือสารกระตุ้นอื่น มีการทำความสะอาดร่างกาย
เสื้อผ้า น้ำประปาด้วยน้ำจืด ทานข้าวเป็นอาหารหลัก และหันมาบริโภคอาหารสำเร็จรูปมากขึ้น
เช่น บะหมี่สำเร็จรูป ขนมถุง และน้ำอัดลมกระป๋อง นอกจากนี้เด็กทารกก็มีการเปลี่ยนจากการดื่มนมแม่เป็นการทานนมผง นิยมฟังเพลงจาก CD
หรือวิทยุ ทั้งเพลงไทยและเพลงสากล ปัจจุบันจะมีเจ้าหน้าที่สาธารณสุขประจำอยู่ที่หมู่บ้านมอแกน
1 คนแต่ก็ยังคงรักษาด้วยวิถีพื้นบ้านควบคู่กันไป ไม่นิยมใช้ส้วมมากนัก
ด้านอาชีพ พบว่าปัจจุบันในช่วงฤดูการท่องเที่ยวหมู่เกาะสุรินทร์
(เดือนพฤศจิกายน – เมษายน) ชาวไทยมอแกนส่วนหนึ่งจะหันมาประกอบอาชีพรับจ้างมากขึ้น
โดยเป็นลูกจ้างของอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ทั้งที่อ่าวช่องขาวและหาดไม้งาม
ผู้หญิงจะทำงานในครัว เป็นแม่บ้าน ส่วนเด็กวัยรุ่นผู้ชายจะขับเรือรับส่งนักท่องเที่ยวไปดำน้ำปะการัง
หรือไปเยี่ยมชนหมู่บ้านชาวไทยมอแกน แบกขนสิ่งของ ผู้สูงอายุจะอยู่ที่หมู่บ้าน
ทำของที่ระลึก จำหน่ายแก่นักท่องเที่ยว บางครอบครัวก็จะตั้งเป็นร้านค้าขายเฉพาะของแห้ง ชาวไทยมอแกน มีการอนุรักษ์ทรัพยากรทางธรรมชาติ โดยไม่ทำร้าย
ทำลายพันธุ์สัตว์น้ำ เต่าตะนุ หอยมุก ปะการัง ป่าไม้ หาปลาแค่พอกิน ตามมาตรการของอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์
แต่สิ่งหนึ่งที่ยังคงอยู่แม้จะให้ความสำคัญในเรื่องดังกล่าวน้อยลง คือ ความเคารพในวิญญาณ
สิ่งศักดิ์สิทธิ์
ชาวไทยมอแกนจะใช้ภาษาถิ่นใต้ ภาษากลาง
และภาษาอังกฤษเนื่องจากได้รับการศึกษามากขึ้น จนเป็นพลเมืองดีและมีความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์
3. ระดับการพัฒนาคุณภาพชีวิตของชาวไทยมอแกนอยู่ในระดับปานกลาง โดยด้านขนบธรรมเนียม
ประเพณี ความเชื่อค่าเฉลี่ยสูงสุด
รองลงมาได้แก่ ด้านการเป็นพลเมืองดี ด้านอาชีพ ด้านสุขภาพอนามัย และด้านการอนุรักษ์และการใช้ทรัพยากรธรรมชาติ
4. การเปลี่ยนแปลงทางสังคมของชาวไทยมอแกนในอดีตและปัจจุบันโดยรวมอยู่ในระดับปานกลาง
เมื่อเปรียบเทียบการเปลี่ยนแปลงทางสังคม 5
ด้านระหว่างอดีตและปัจจุบันโดยการนำเสนอผลข้อมูลโดยรวม พบว่า ด้านสุขภาพอนามัย
ด้านอาชีพ ด้านการอนุรักษ์และการใช้ทรัพยากรธรรมชาติ
และด้านการเป็นพลเมืองดี ระดับการเปลี่ยนแปลงทางสังคมระหว่างอดีตและปัจจุบันแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ
0.01 ส่วนการเปลี่ยนแปลงทางสังคมด้านขนบธรรมเนียม
ประเพณี ความเชื่อระหว่างอดีตและปัจจุบันแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ
0.05
5. การพัฒนาคุณภาพชีวิตของชาวไทยมอแกนมีความสัมพันธ์กับการเปลี่ยนแปลงทางสังคมในปัจจุบัน อยู่ในระดับปานกลาง เป็นไปตามสมมุติฐานที่วางไว้
ความคิดเห็น